ปรับกันสักนิด กับวิธีคิดการตลาด
เคล็ดลับสำคัญสามข้อ ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์และเครื่องมือดิจิทัล เพื่อแสดงเรื่องราวที่เป็นตัวตนของธุรกิจคุณต่อสายตาลูกค้าผ่านสื่อโซเชียลมีเดียและเทคโนโลยีดิจิทัล
สารบัญ
รู้จักกับเครื่องมือโซเชียลมีเดีย
ถึงแม้ทุกวันนี้ เครื่องมือโซเชียลมีเดีย ไม่ใช่ Trend ใหม่ของโลกการทำธุรกิจ แต่เชื่อได้เลยว่า ยังมีธุรกิจอีกหลายธุรกิจ ที่ยังมีข้อสงสัย และไม่เข้าใจ ในการนำเอาเครื่องมือโซเชียลมีเดียมาใช้ในการทำการตลาด
![](https://taokaeacademy.com/wp-content/uploads/2023/08/Taokae-Academy-Business-Digital-Marketing-Branding-Ezbizcode-TheFotoDio-Website-031.jpg)
จากสถิติ กว่า 40% ของธุรกิจขนาดเล็ก ยังคงมีปัญหาในการนำเอาเครื่องมือดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ ข้อจำกัดที่ถูกพูดถึงเป็นอันดับต้นๆ ก็หนีไม่พ้น เรื่องของเวลาและงบประมาณที่จำกัด ข้อจำกัดเหล่านี้จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจ SME ไม่กล้าที่จะนำเอาเครื่องมือดิจิทัลต่างๆ มาประยุกต์ใช้
เมื่อไม่มีการประยุกต์ใช้ ก็จะยังไม่เกิดการเรียนรู้ การที่คาดหวังว่าจะมีความคิดสร้างสรรค์ หรือสร้างนวัตกรรมให้กับธุรกิจของตัวเองได้จึงมีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ
ความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับจุดเริ่มต้นในการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้ได้ ในเวลาและงบประมาณที่จำกัด เพื่อให้เกิดการเรียนรู้
ในวันนี้เราจะมาพูดคุยกันถึง เคล็ดลับ 3 ข้อ ในการปรับวิธีคิดการตลาด ด้วยการใช้เครื่องมือดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย
1. เน้นไปที่ “มือถือ”
มือถือต้องมาก่อน หลักคิดสำหรับการทำการตลาดที่เป็นหลักคิดอันดับต้นๆ ของนักการตลาดในยุคนี้ แต่เราต้องไม่ลืมให้ความสำคัญกับเนื้อหา และรูปแบบของเนื้อหาด้วย ไม่ใช่คำนึงถึงแค่อุปกรณ์ที่นำเสนออย่างเดียว
VDO Format หรือ รูปแบบของวิดีโอที่ได้รับความนิยมในทุกวันนี้ คือ Vertical Short Form Video (ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึง TikTok) นี่คือรูปแบบวิดีโอที่ผู้บริโภคทั้งโลกกำลังให้ความสนใจมากขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่ง SME ก็สามารถนำเอารูปแบบวิดีโอแบบนี้มาสร้างเนื้อหาหรือคอนเทนต์ได้ และต้องไม่ลืมที่จะสอดแทรกข้อมูลธุรกิจ สินค้า หรือบริการเข้าไปด้วย
เมื่อ SME สามารถที่จะเข้าใจในกระบวนการสื่อสารด้วย Vertical Short Form Video แล้ว ขั้นถัดไป อาจะนำเอา VDO Format รูปแบบนี้ไปต่อยอด ขยายผล ด้วยการทำโฆษณาเพิ่มเติมก็ได้
2. ทำสื่อผสมผสานทั้ง Video และ ภาพนิ่ง
สื่อทั้งสองประเภทนี้ให้ผลลัพธ์กับผู้รับชมที่แตกต่างกัน สื่อทั้งสองแบบมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราต้องฝึกที่จะคิดให้แตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ ที่จะนำเอาสื่อทั้งสองประเภทมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน
มีสถิติที่น่าสนใจของธุรกิจหนึ่ง ในการทำโฆษณาวิดีโอและภาพนิ่งมาทำแคมเปญร่วมกัน ซึ่งได้ผลลัพธ์จากการทำโฆษณาเพิ่มขึ้นมากกว่าการทำแคมเปญวิดีโอเพียงอย่างเดียว หรือภาพนิ่งเพียงอย่างเดียว กว่า 139% เลยทีเดียว
เทคนิคเพิ่มเติมอีกนิดสำหรับการทำสื่อผสมผสานวิดีโอและภาพนิ่ง ระยะเวลาของสื่อที่น่าสนใจและได้รับความนิยมสูงสุด อยู่ที่ 15 วินาที นั่นหมายความว่า เวลาทองของเราในการนำเสนอให้น่าสนใจอยู่ที่ 15 วินาทีแรกเท่านั้น
3. อย่าลืมสอดแทรกข้อมูลสินค้าและบริการ
การทำคอนเทนต์ที่ดี นอกจากจะสื่อสารในรูปแบบความบันเทิงที่ผู้บริโภคชื่นชอบแล้ว เราในฐานะเจ้าของกิจการต้องไม่ลืมที่จะใส่เนื้อหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ สินค้า หรือบริการลงไปในคอนเทนต์นั้นๆ ด้วย จะมากจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ที่สำคัญ เนื้อหาสาระที่ใส่เข้าไป ควรจะต้อง “สร้างประโยชน์” ให้กับผู้รับชมไม่ทางใดก็ทางหนึ่งได้ด้วย อาจจะเป็นความรู้ ความเข้าใจ หรือแรงบันดาลใจก็ได้ ซึ่งอันนี้อยู่ที่ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ธุรกิจจะวางแผนใส่เข้าไป
ขอให้กำลังใจ เจ้าของธุรกิจ SME ทุกๆ ท่าน ที่ยังมีความลังเลหรือกลัว กับการเริ่มต้นนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลและโซเชียลมีเดียมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ วิถีเถ้าแก่ ขอเป็นกำลังใจให้ และอย่าลืมนำ 3 วิธีคิดเหล่านี้ไปประกอบใช้กันด้วยนะคะ