9 วิธีถ่ายภาพสินค้าเครื่องประดับอย่างไรให้ดูแพง
ประเภทสินค้าในการถ่ายภาพออกมาให้สมบูรณ์แบบได้ยากที่สุด คงหนีไม่พ้นสินค้าประเภทเครื่องประดับ เพราะเครื่องประดับมักมีรายละเอียดมาก ขนาดไม่ใหญ่นัก และมีลวดลายลูกเล่นวิจิตรบรรจง แตกต่างจากสินค้าประเภทอื่นมักมีขนาดใหญ่กว่า และมีรายละเอียดไม่มาก ด้วยรายละเอียดซับซ้อนและเป็นสินค้าประเภทสวยงาม ภาพถ่ายสินค้าชนิดนี้จึงต้องการความสวยงามเป็นพิเศษกว่าสินค้าประเภทไหนๆ
1.ทำความสะอาดเครื่องประดับอย่างดีก่อนนำมาถ่ายภาพ
เป็นเรื่องสำคัญเหลือเกิน มองข้ามความสะอาดของสินค้าไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเครื่องประดับมักมีขนาดไม่ใหญ่และมีรายละเอียดค่อนข้างมาก การถ่ายภาพจึงต้องโคลสอัพเข้าไปใกล้ตัวเครื่องประดับอยู่เสมอ หากตัวเครื่องประดับไม่ผ่านการทำความสะอาดมาอย่างดี อาจทำให้เครื่องประดับดูมัวหมอง ดูเหมือนมีตำหนิ ไม่สมราคา ไม่ผุดผ่องโดดเด่นเท่าที่ควร ดังนั้นก่อนถ่ายจึงควรกำจัดฝุ่นและรอยนิ้วมือออกเสียก่อนด้วยผ้าชามัวร์อย่าลืมสวมถุงมือทุกครั้งที่สัมผัสตัวเครื่องประดับเพื่อกันคราบไขมันติดลงไป และใช้ลูกยางเป่าฝุ่นที่เครื่องประดับก่อนถ่ายเสมอ
2.เลนส์มาโคร รีโมท ขาตั้งกล้อง
เลนส์มาโครหรือเลนส์ถ่ายระยะใกล้ เหมาะกับการถ่ายภาพสินค้าประเภทเครื่องประดับที่สุด เพราะจะได้ภาพถ่ายที่เผยให้เห็นรายละเอียดได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งถ้ามีรีโมทและขาตั้งกล้องเข้ามาเป็นตัวช่วยด้วยแล้วล่ะก็ ความคมชัดในรายละเอียดก็จะยิ่งสมบูรณ์มากขึ้นอีก เนื่องจากไม่มีการเคลื่อนไหวแม้เพียงเล็กน้อยเกิดขึ้นกับกล้องเลย ภาพที่ได้ออกมาจึงมีความคมชัดสูงกว่าการใช้มือถือกล้องหรือการใช้ขาตั้งกล้องเพียงอย่างเดียว
3.จัดแสงให้มีแสงตกกระทบ เกิดเงาเกิดคอนทราส
ภาพถ่ายเครื่องประดับควรมีมิติที่โดดเด่น ภาพที่มีแสงเงาแบนๆไร้แสงตกกระทบกับตัวสินค้า จะทำให้สินค้าดูไม่สวยงามโดดเด่นเท่าที่ควร
4.ดึงความโดดเด่นด้วยพื้นหลังสีขาว
ใช้พื้นหลังสีขาว เพื่อขับให้ตัวเครื่องประดับดูโดดเด่นออกมา หรือใช้พื้นหลังสีอ่อนๆตามเฉดที่ต้องการ หรือใช้พื้นหลังที่มีลวดลายเล็กน้อย แต่ใช้เทคนิคหน้าชัดหลังเบลอ เพื่อให้สินค้าที่วางอยู่ด้านหน้านั้นโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
5.สื่ออารมณ์สร้างบรรยากาศด้วยพื้นหลังที่แตกต่าง
การถ่ายภาพเครื่องประดับ ไม่จำเป็นต้องใช้เพียงพื้นหลังสีขาวหรือสีพื้นเพียงอย่างเดียว แต่สามารถใช้พื้นหลังที่มีลวดลาย texture ต่างๆหรือแม้แต่ของวางประกอบฉากเล็กน้อยให้ดูน่าสนใจขึ้นได้ แต่ต้องโฟกัสที่ตัวเครื่องประดับ ส่วนด้านหลังทั้งหมดปล่อยเบลอ มีหน้าที่เพียงสร้างบรรยากาศและสร้างอารมณ์ร่วมเท่านั้น
6.มุมมองหลากหลาย
มุมมองที่หลากหลายช่วยทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกสินค้าได้ง่ายขึ้น เพราะได้มองเห็นตัวสินค้าอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นมุมด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน ด้านใน หรือด้านที่เผยให้เห็นจุดเด่นอย่างชัดเจนของเครื่องประดับ
7.แสดงรายละเอียด
ภาพถ่ายที่โคลสอัพเข้าไปให้เห็นรายละเอียดปลีกย่อยอันแสนสวยงามในจุดต่างๆช่วยดึงดูดให้ลูกค้าจินตนาการต่อถึงความสวยงาม และความเลอค่าของสินค้าได้เป็นอย่างดี
8.สวมใส่เข้ากับตัวแบบ เพื่อสื่อถึงการใช้งาน
เครื่องประดับจะดูสวยงามและมีชีวิตชีวามากขึ้นเมื่อสวมใส่อยู่กับตัวแบบในตำแหน่งที่เหมาะสม สร้อยคอลวดลายพริ้วไหวที่สวมอยู่กับคออันงามระหง สร้อยข้อมือที่สวมเข้ากับข้อมือได้พอดี และแหวนที่สวนอยู่กับนิ้วเรียวยาว บ่งบอกได้ถึงการใช้งานและสร้างจินตนาการที่ดียิ่งให้กับลูกค้า
9.ถ่ายภาพเครื่องประดับพร้อมบรรจุภัณฑ์
เครื่องประดับจำเป็นต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม เพื่อให้เหมาะสมกับเครื่องประดับแสนสวยงามและเลอค่าที่บรรจุอยู่ด้านใน และยังเพื่อให้ผู้รับเกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ดังนั้นการถ่ายภาพเครื่องประดับพร้อมบรรจุภัณฑ์ จึงเป็นการช่วยทำให้สินค้าดูมีมูลค่าสูงมากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม หัวใจของภาพถ่ายสินค้าประเภทเครื่องประดับก็ยังคงเป็นเรื่องของรายละเอียดและเรื่องของการขับความสวยงามของเครื่องประดับให้ดูโดดเด่นออกมาอยู่เสมอ แต่เมื่อรู้เทคนิคข้างต้นแล้ว การถ่ายภาพเครื่องประดับให้ดูมีมูลค่าสูงขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป