การใช้งาน Divi Builder: ขั้นตอนและเคล็ดลับสำหรับมือใหม่

การใช้งาน Divi Builder: ขั้นตอนและเคล็ดลับสำหรับมือใหม่

ในโลกของการสร้างเว็บไซต์ “WordPress” มีเครื่องมือหลายตัวที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง “เว็บไซต์ธุรกิจ” ได้อย่างง่ายดาย หนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและทรงพลังที่สุดคือ “Divi Builder” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธีม Divi ที่พัฒนาโดย Elegant Themes Divi Builder ช่วยให้ผู้ใช้สร้างและปรับแต่งเว็บไซต์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด ในบทความนี้ เราจะพาคุณผ่านขั้นตอนการใช้งาน Divi Builder และแนะนำเคล็ดลับที่สำคัญสำหรับมือใหม่

1. การเริ่มต้นใช้งาน Divi Builder

การติดตั้ง Divi บน WordPress

ก่อนที่คุณจะสามารถใช้งาน Divi Builder ได้ คุณต้องทำการติดตั้งธีม Divi บน WordPress ของคุณ ขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ดาวน์โหลดธีม Divi จากเว็บไซต์ของ Elegant Themes จากนั้นเข้าสู่แดชบอร์ดของ WordPress และเลือก “ธีม” ในเมนูรูปลักษณ์ จากนั้นอัปโหลดไฟล์ธีมที่คุณดาวน์โหลดมา และเปิดใช้งานธีมนี้

เมื่อคุณได้ติดตั้งธีม Divi แล้ว Divi Builder จะพร้อมใช้งานในเว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันทีเมื่อคุณสร้างหรือแก้ไขหน้าเว็บใด ๆ บน WordPress

การสร้างหน้าเว็บด้วย Divi Builder

หลังจากที่คุณติดตั้งและเปิดใช้งานธีม Divi บนเว็บไซต์ของคุณแล้ว เมื่อคุณต้องการสร้างหน้าเว็บใหม่ ให้คลิกที่ “เพิ่มหน้าใหม่” บนแดชบอร์ดของ WordPress จากนั้นคุณจะพบตัวเลือกในการใช้ Divi Builder เมื่อคลิกที่ปุ่ม “ใช้ Divi Builder” คุณจะเข้าสู่เครื่องมือสร้างเว็บไซต์แบบ Visual Builder ที่ช่วยให้คุณสามารถเห็นผลลัพธ์ในขณะที่คุณปรับแต่งหน้าเว็บ

Divi Builder มี Layout สำเร็จรูปให้คุณเลือกใช้หรือคุณสามารถเริ่มต้นจากหน้าว่างและสร้างหน้าเว็บตามจินตนาการของคุณได้ โดยการลากและวางองค์ประกอบต่าง ๆ บนหน้าเว็บ เช่น ส่วนหัว, ข้อความ, รูปภาพ, ปุ่ม, และอื่น ๆ

2. การใช้งานพื้นฐานของ Divi Builder

การเพิ่มและจัดการ Section, Row และ Module

Divi Builder ใช้ระบบการจัดเรียงหน้าเว็บที่มีโครงสร้างเป็น Section, Row, และ Module โดยที่ Section คือส่วนใหญ่สุดในหน้าเว็บ, Row เป็นแถวที่อยู่ภายใน Section, และ Module คือตัวองค์ประกอบที่อยู่ในแต่ละ Row

• Section: เป็นพื้นที่ที่คุณสามารถจัดวางเนื้อหาของคุณได้ คุณสามารถสร้าง Section ใหม่โดยการคลิกที่เครื่องหมายบวก (+) ในหน้าเว็บ จากนั้นเลือก Section แบบมาตรฐาน (Regular), Section แบบพิเศษ (Specialty), หรือ Section เต็มหน้าจอ (Fullwidth)
• Row: ภายในแต่ละ Section คุณสามารถเพิ่ม Row เพื่อจัดวาง Module ได้ตามต้องการ Row สามารถมีคอลัมน์หลายแถว ซึ่งคุณสามารถจัดเรียง Module ต่าง ๆ ในแถวและคอลัมน์นี้ได้
• Module: Module คือองค์ประกอบที่คุณใช้ในการสร้างเนื้อหาบนหน้าเว็บ เช่น ข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอ, ปุ่ม, และอื่น ๆ Divi Builder มี Module สำเร็จรูปให้เลือกใช้มากมาย

การปรับแต่ง Module

แต่ละ Module ใน Divi Builder สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียด คุณสามารถคลิกที่ Module ใด ๆ เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่า ซึ่งในหน้าต่างนี้คุณสามารถแก้ไขเนื้อหา, รูปแบบ, การแสดงผล และอื่น ๆ ได้ตามต้องการ เช่น การเปลี่ยนสีตัวอักษร การตั้งค่าเงา หรือการปรับขนาดของ Module นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่ม CSS ส่วนตัวของคุณได้หากต้องการการปรับแต่งที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

การบันทึกและการจัดการ Layout

Divi Builder ให้คุณสามารถบันทึก Layout ที่คุณสร้างขึ้นมาเพื่อนำไปใช้ในหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ได้ คุณสามารถบันทึก Layout ของคุณในรูปแบบไฟล์ JSON หรือบันทึกไว้ในคลัง Layout ของ Divi ซึ่งทำให้การสร้างหน้าเว็บใหม่ ๆ ที่มีการออกแบบคล้ายกันเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

3. เคล็ดลับสำหรับมือใหม่ในการใช้งาน Divi Builder

เรียนรู้การใช้งาน Visual Builder

หนึ่งในเคล็ดลับสำคัญสำหรับมือใหม่คือการเรียนรู้การใช้งาน Visual Builder อย่างเต็มที่ Divi Builder ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายด้วยการลากและวาง แต่คุณควรทำความคุ้นเคยกับการใช้เครื่องมือและการปรับแต่ง Module ต่าง ๆ ให้ดี เพื่อให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว

ใช้ Layout สำเร็จรูป

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งาน Divi Builder การใช้ Layout สำเร็จรูปเป็นวิธีที่ดีในการเรียนรู้ คุณสามารถเลือก Layout ที่ใกล้เคียงกับความต้องการของคุณ และทำการปรับแต่งให้เหมาะสมกับเนื้อหาของคุณเอง การเริ่มต้นด้วย Layout สำเร็จรูปจะช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้เร็วขึ้นและไม่ต้องกังวลกับการออกแบบตั้งแต่เริ่มต้น

ทำความรู้จักกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Divi Builder

Divi Builder มีฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์เป็นไปอย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Animation, การตั้งค่า Visibility, การใช้ Global Module, หรือการใช้ฟีเจอร์ Split Testing การทำความรู้จักกับฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ที่มีความโดดเด่นและตอบสนองความต้องการของธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เข้าร่วมชุมชน Divi

Divi มีชุมชนผู้ใช้งานที่ใหญ่และสนับสนุนกันอย่างดี การเข้าร่วมชุมชน Divi จะช่วยให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ใช้คนอื่น ๆ และเรียนรู้เคล็ดลับใหม่ ๆ ในการใช้งาน Divi Builder นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลเช่น บทความ, วิดีโอสอนการใช้งาน, และคู่มือจากผู้เชี่ยวชาญในชุมชน ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้งาน Divi Builder ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

4. สรุป

การใช้งาน “Divi Builder” สำหรับการสร้าง “เว็บไซต์ธุรกิจ” บน “WordPress” ไม่เพียงแค่เป็นวิธีการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มาพร้อมกับความยืดหยุ่นในการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด ด้วยความสามารถในการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน และฟีเจอร์ที่ครอบคลุม Divi Builder เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทั้งมือใหม่และผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์

การใช้เคล็ดลับและคำแนะนำจากบทความนี้ คุณจะสามารถเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ของคุณด้วย Divi Builder ได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จใน “เว็บไซต์ธุรกิจ” ของคุณอย่างแน่นอน.