ทำการตลาด ด้วยศาสตร์ของหมอดู
หัวข้อบทความนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าร้าย ดูถูก หรือวิจารณ์ศาสตร์ของการดูดวงหรือทำนายทายทักของหมอดูแต่อย่างใด แต่ในบทความนี้ ผมอยากจะสื่อสารไอเดียใหม่ๆ ในการวางกลยุทธ์การตลาด โดยใช้ศาสตร์การอ่านคนเข้ามาช่วยนั่นเอง
และในเนื้อหาที่เราจะมาโฟกัสกันวันนี้ ก็จะเป็นเรื่องของการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของเราโดยใช้ศาสตร์การอ่านคนและการประมาณการเข้ามาช่วยนั่นเองครับ
ทำนายกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนที่นักการตลาดจะทำการวางกลยุทธ์ สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ การหากลุ่มเป้าหมาย หรือการทำ Buyer Personal ซึ่งบางที พอตั้งกลุ่มเป้าหมายขึ้นมาแล้วก็จะเริ่มมีคำถามถามตัวเองวนไปวนมาว่า ทำไมจึงเลือกกลุ่มนี้นะ
สิ่งที่ผมใช้ในการตอบคำถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ก็คือการสังเกตและวิเคราะห์พฤติกรรมเป็นกลุ่มย่อยๆ ไปนั่นเอง ซึ่งเราอาจแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้ตามนี้
กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ช่วงอายุประมาณ 18- 25 ปี
ความสนใจของกลุ่มนี้สิ่งที่พอจะเป็นไปได้ หลักๆ ก็คือเรื่องของการเรียนนั่นเอง นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องของเพื่อน กิจกรรมสนุกๆ ระหว่างเพื่อนๆ กีฬา รวมถึงเรื่องของ ความรัก (เรื่องนี้ต้องไม่พลาด) นอกจากนี้ในปัจจุบัน คนกลุ่มนี้ยังเริ่มมีความสนใจในการเป็นเจ้าของกิจการเพิ่มเติมขึ้นมาอีกด้วย โดยบางส่วนอาจเริ่มมีการทำงานตั้งแต่ช่วงอายุ 18-20 ปีแล้วด้วยเช่นกัน
กลุ่มวัยทำงาน พนักงานบริษัทเอกชนทั่วไป ช่วงอายุ 25-35 ปี
สำหรับคนกลุ่มนี้ ความสนใจที่เป็นไปได้ ก็จะเป็นเรื่องของงาน ตำแหน่งหน้าที่การงาน โอกาสในหน้าที่การงาน เรื่องฐานะ เรื่องเงิน การใช้จ่าย การซื้อสินค้า เพราะกลุ่มนี้โดยส่วนใหญ่ก็จะมีกำลังซื้อมากกว่ากลุ่มแรก
กลุ่มวัยกลางคนขึ้นไป ช่วงอายุประมาณ 35 ปีขึ้นไป
สำหรับกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่เริ่มมีการงานที่มั่นคงแล้ว หรือกำลังทำธุรกิจจริงจังกันแล้ว เพราะฉะนั้น ความสนใจโดยส่วนใหญ่ จะเป็นเรื่องของผลลัพธ์ของการทำงาน ทำธุรกิจ ในมุมต่างๆ เช่น เงินทอง ทรัพย์สมบัติ การใช้เงินไปกับการท่องเที่ยว หรือเรื่องของครอบครัว คู่ครอง หรือลูกๆ เด็กๆ เป็นต้น
นี่ก็เป็นการคาดคะเนเบื้องต้นจากการสังเกต หรือบางครั้งเราก็สามารถหาสถิติจากงานวิจัยต่างๆ มาประกอบกันก็ไม่ผิด ผมจะเรียกการคาดการณ์แบบนี้ว่าเป็นการเดาอย่างเดียวเลยก็คงไม่ถูกนัก แต่ถ้าจะถูกต้องเลยก็ไม่ใช่ แต่ก็ดีกว่าการเริ่มต้นที่ไม่มีข้อมูลใดๆ เลยต่างหาก
และนี่ก็คือการใช้ศาสตร์ของหมอดูมาประยุกต์ใช้กับการทำการตลาดนั่นเอง
